วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

ชีวิตดีขึ้น เพราะบุญมาถึง



ชีวิตดีขึ้นเพราะบุญมาถึง
เช่นนี้จึงต้องเร่งขวนขวาย
สร้างบุญบารมีกันมากมาย
เพราะว่าความตายไม่รั้งรอ

ชีวิตตกต่ำเพราะไม่มีบุญ
ประมาทไม่ตุนบุญไว้ทุกข์หนอ
ผิดศีลผิดธรรมคงไม่เกินรอ
คงได้อัดอออยู่ในอบาย



     แผ่นดิน
๑๖ มีนาคม ๒๕๕๙

วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

เข้าวัดก็ดีกว่าไม่เข้า   เลิกเมาเลิกหมดบุหรี่  รักษาศีลห้าทันที่  แค่นี้จิตใจก็ร่มเย็น. วัดสอนให้เราทำทาน. แบ่งปันในกาลเหมาะสม. ไม่ได้ทำเพราะหวังคำชม. เพราะนิยมฝึกฝนจิตใจ. สมาธิได้นั่งตลอด. สุดยอดด้วยใจใสๆ คิดพูดทำดีเรื่อยไป. หนักแน่นในธรรมมั่นคง. วัดสอนให้เราคิดดี. วันที่เคยทุกข์ตรอมตรม ก็จมละลายหายไป. ความสุขได้คำมาแทน  หนักแน่นในบุญสดใส ไม่นานชีวิตจิตใจ เปลี่ยนไปได้ดีมีบุญ

นั่งสมาธิแล้วชีวิตดี๊ดี คือเรื่องจริงที่ต้องพิสูจน์

นั่งสมาธิแล้วชีวิตดี๊ดี



เพียงฉันแค่หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายร่างกายอย่างเบาสบาย โลกทั้งโลก ความสับสนวุ่นวาย ความเครียด  ความฟุ้งซ่านกังวลใจ ก็พลันหยุดลง  เหลือเพียงแค่ตัวฉันกับความสุขสงบ 

เป็นเวลาที่ฉันได้พบเจอตัวของฉันเอง เป็นเวลาที่ฉันได้ยินเสียงจากหัวใจของตนเอง รู้สึกเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง การค้นหาตนเองที่ฉันเผ้าแสวงหามาอย่างยาวนานได้หยุดลงในวันนี้ ในวันที่ฉันได้นั่งหลับตาลง เบาๆสบายๆตรงกลางกายของฉันเอง

ทุกๆครั้งที่ชีวิตของฉันพานพบกับปัญหา และ อุปสรรคต่างๆ เมื่อฉันได้นั่งหลับตา ฉันกลับพบว่าทุกปัญหามีทางออก ทุกอุปสรรคมีคำตอบ ทุกๆเหตุการณ์มีโอกาสดีๆซ่อน และ รอคอยฉันอยู่เสมอ

ในยามที่ฉันท้อแท้ และ หมดกำลังใจ การนั่งหลับตาเบาๆทำให้ฉันค้นพบว่า พลังใจ และ กำลังใจ อยู่ภายในตัวของฉันเอง และ ฉันพบว่าพลังที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของฉันนั้น นำเอามาใช้ได้ไม่มีวันหมด จากการฝึกสมาธิ

ความโกรธแค้น  ชิงชัง อาฆาตพยาบาท และความขัดเคืองใจทั้งหลาย ละลายหายไป เมื่อฉันได้ปล่อยใจให้ผ่อนคลาย และปล่อยวางเรื่องราวต่างๆทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิต และ ฉันกลับพบว่า ความมีเมตตา การให้อภัยในความผิดพลาดของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั้น เป็นการให้ของขวัญ เป็นการคืนความสุขสงบใจให้กับตัวฉันเอง

เมื่อฉันได้นั่งหลับตา ฉันกลับพบว่าไม่มีประโยชน์เลย ที่จะไปมองหาสิ่งที่ไม่ดี ของบุคคลอื่น ฉันกลับหันมามองตัวเอง ได้เห็นความจริงที่ว่า ตัวของฉันเองยังมีเรื่องที่ต้องพัฒนาปรับปรุงตัวเองอีกมาก จึงไม่คิดจะไปเสียเวลาในการจับผิดคนอื่น

และ ยิ่งได้มีโอกาสฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอ ฉันยิ่งมีกำลังใจในการเลือกมอง และ ค้นหาแต่ความดี ของผู้อื่นแทน และ นำสิ่งดีๆเหล่านั้นเข้ามาฝึก เข้ามาพัฒนาปรับปรุงตัวเองในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ฉันภาคภูมิใจในตนเอง มั่นใจในตนเอง และ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรร และ มีความสุข

สมาธิสำหรับฉัน ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชีวิต แต่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของฉันที่ทำให้ฉันเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีในชีวิตทุกด้าน ในทุกวันนี้ฉันมีความสุขมาก  และ มั่นใจว่าความสุขที่แท้จริงของชีวิตเกิดจากการฝึกสมาธิให้ใจหยุดนั่นเอง ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าท่านตรัสว่า นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี

     


       แผ่นดิน

๑๒ มีนาคม ๒๕๕๙

ชีวิตดีขึ้นเมื่อบุญมาถึง


ชีวิตดีขึ้นเมื่อบุญมาถึง                                   เอาไว้พึ่งพายามต้องประสบทุกข์
เป็นทางมาแห่งโชคและความสุข                   ชีวิตแสนสนุกเมื่อได้สร้างบุญ
อุปสรรคมากแค่ไหนเราไม่กลัว                      จะให้ชัวร์สร้างบุญไ้ว้บุญจะหนุน
ปิดอบายไปสวรรค์บุญเจือจุน                        เริ่มเถิดคุณทำง่ายๆสบายๆเอย

   
แผ่นดิน
๑๕ มีนาคม ๒๕๕๙

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

นั่งสมาธิแล้วชีวิตดี๊ดี



เพียงฉันแค่หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายร่างกายอย่างเบาสบาย โลกทั้งโลก ความสับสนวุ่นวาย ความเครียด  ความฟุ้งซ่านกังวลใจ ก็พลันหยุดลง  เหลือเพียงแค่ตัวฉันกับความสุขสงบ 

เป็นเวลาที่ฉันได้พบเจอตัวของฉันเอง เป็นเวลาที่ฉันได้ยินเสียงจากหัวใจของตนเอง รู้สึกเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง การค้นหาตนเองที่ฉันเผ้าแสวงหามาอย่างยาวนานได้หยุดลงในวันนี้ ในวันที่ฉันได้นั่งหลับตาลง เบาๆสบายๆตรงกลางกายของฉันเอง

ทุกๆครั้งที่ชีวิตของฉันพานพบกับปัญหา และ อุปสรรคต่างๆ เมื่อฉันได้นั่งหลับตา ฉันกลับพบว่าทุกปัญหามีทางออก ทุกอุปสรรคมีคำตอบ ทุกๆเหตุการณ์มีโอกาสดีๆซ่อน และ รอคอยฉันอยู่เสมอ

ในยามที่ฉันท้อแท้ และ หมดกำลังใจ การนั่งหลับตาเบาๆทำให้ฉันค้นพบว่า พลังใจ และ กำลังใจ อยู่ภายในตัวของฉันเอง และ ฉันพบว่าพลังที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของฉันนั้น นำเอามาใช้ได้ไม่มีวันหมด จากการฝึกสมาธิ

ความโกรธแค้น  ชิงชัง อาฆาตพยาบาท และความขัดเคืองใจทั้งหลาย ละลายหายไป เมื่อฉันได้ปล่อยใจให้ผ่อนคลาย และปล่อยวางเรื่องราวต่างๆทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิต และ ฉันกลับพบว่า ความมีเมตตา การให้อภัยในความผิดพลาดของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั้น เป็นการให้ของขวัญ เป็นการคืนความสุขสงบใจให้กับตัวฉันเอง

เมื่อฉันได้นั่งหลับตา ฉันกลับพบว่าไม่มีประโยชน์เลย ที่จะไปมองหาสิ่งที่ไม่ดี ของบุคคลอื่น ฉันกลับหันมามองตัวเอง ได้เห็นความจริงที่ว่า ตัวของฉันเองยังมีเรื่องที่ต้องพัฒนาปรับปรุงตัวเองอีกมาก จึงไม่คิดจะไปเสียเวลาในการจับผิดคนอื่น

และ ยิ่งได้มีโอกาสฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอ ฉันยิ่งมีกำลังใจในการเลือกมอง และ ค้นหาแต่ความดี ของผู้อื่นแทน และ นำสิ่งดีๆเหล่านั้นเข้ามาฝึก เข้ามาพัฒนาปรับปรุงตัวเองในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ฉันภาคภูมิใจในตนเอง มั่นใจในตนเอง และ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรร และ มีความสุข

สมาธิสำหรับฉัน ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชีวิต แต่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของฉันที่ทำให้ฉันเกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีในชีวิตทุกด้าน ในทุกวันนี้ฉันมีความสุขมาก  และ มั่นใจว่าความสุขที่แท้จริงของชีวิตเกิดจากการฝึกสมาธิให้ใจหยุดนั่นเอง ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าท่านตรัสว่า นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี

     


       แผ่นดิน

๑๒ มีนาคม ๒๕๕๙


วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

ฉันมาวัดพระธรรมกายแล้วชีวิตดีขึ้นอย่างไร







ฉันมาวัดพระธรรมกายแล้วชีวิตฉันดีขึ้นในทุกๆด้าน



ชีวิตของฉันไม่เค้วงคว้าง ไม่ไร้จุดหมาย และ ไม่ไร้ค่า เพราะวัดพระธรรมกายสอนให้ฉันมีเป้าหมายชีวิต ที่รู้ว่าเกิดมาเพื่ออะไร และ ต้องลงมือทำอย่างไรจึงสามารถ ก้าวพ้นจากความทุกข์ ไปสู่ฝั่งคือพระนิพพานได้

ชีวิตฉันมีความสุขมาก เพราะวัดพระธรรมกายสอนให้ฉันรู้จักกับความสุขที่แท้จริง ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวของฉันเอง เมื่อฉันได้ลงมือปฏิบัติธรรมคราใด ใจของฉันก็จะสงบ และ เปี่ยมไปด้วยความสุข ทำให้ฉันมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต และ เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันในการแบ่งปันความสุขนั้นๆขยายต่อๆไปยังคนรอบข้าง

ชีวิตฉันกำลังก้าวหน้า เพราะวัดพระธรรมกายสอนให้ฉันรู้ความลับของชีวิต ว่าบุญเป็นเบื้องหลังความสุข ความสำเร็จในชีวิตทั้งหลาย ฉันจึงงดเว้นจากบาปกรรม ตั้งใจสร้างเหตุแห่งความก้าวหน้าในชีวิต ด้วยการหมั่นสั่งสมบุญอยู่เป็นประจำ ชีวิตของฉันจึงก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไปทุกวัน

ชีวิตฉันนี้ ได้มาจากคุณพ่อคุณแม่ผู้ให้กำเนิด และ เลี้ยงดูฉันมาอย่างดี วัดพระธรรมกายสอนให้ฉันซาบซึ้งถึง พระคุณของพ่อแม่ ที่เป็นพระอรหันต์ เป็นเนื้อนาบุญในบ้าน และ สอนให้ฉันรู้จักการประกาศคุณ และ ตอบแทนพระคุณท่าน ทำให้ชีวิตของฉันเจริญรุ่งเรือง และ ภาคภูมิใจ

ชีวิตฉันปลอดภัย จากภัยทั้งหลายในวัฏสงสาร เพราะวัดพระธรรมกายสอนให้ฉันรู้จัก กฏแห่งกรรม ซึ่งเป็นกฏเกณฑ์ประจำโลกที่โหดร้าย คุมขังสรรพสัตว์ทั้งหลายให้เวียนว่ายตายเกิดในกองทุกข์ไม่รู้จบสิ้น ทำให้ฉันมีแนวทางในการดำเนินชีวิต ที่ถูกต้อง  ดีงาม  และ ปลอดภัย จากการละชั่ว ทำความดี และ การกลั่นใจให้ผ่องใส ซึ่งวัดพระธรรมกายได้น้อมนำเอาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาอธิบายให้เกิดความกระจ่างแจ้งในทางปฏิบัติ และ เกิดกำลังใจในการทำความดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฉันอบอุ่นใจเพราะรู้ดีว่าชีวิตของฉันในวันนี้มีความปลอดภัย และ อยู่ห่างไกลจากภยันตรายทั้งหลาย

ชีวิตฉันนี้ออกแบบได้ ชีวิตของฉันจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ใจของฉันเอง วัดพระธรรมกายสอนให้ฉันออกแบบชีวิต จากการฝึกนิสัย ฝึกความรับผิดชอบ ผ่านการดำเนินชีวิตจริง ทั้งในเรื่องความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความสุภาพ  การตรงต่อเวลา และ การฝึกสมาธิ ทำให้ในวันนี้ฉันมองเห็นแนวทางในการแก้ไขนิสัยของตัวเอง ไปสู่การพัฒนาปรับปรุงตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ชีวิตฉันมีคุณค่า ต่อคนรอบข้าง ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน คนในสังคมทุกระดับ เพราะวัดพระธรรมกายสอนให้ฉัน รู้จักเสียสละ และ แบ่งปัน ทั้งทรัพย์สินเงินทอง ทั้งกำลังกาย กำลังใจ กำลังความรู้ไปช่วยเหลือ ส่งเสริมบุคคลทั้งหลายรอบตัว เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และ ที่สำคัญฝึกให้ฉันรู้จักการให้อภัยต่อความผิดพลาดของผู้อื่น ซึ่งทำให้ใจของฉันเอง อยู่เย็นเป็นสุขอย่างยิ่ง


ที่ชีวิตของฉันดีขึ้น และ ดียิ่งขึ้นไปในทุกๆด้านได้นี้ ก็เพราะเกิดจากการปฏิบัติธรรม ตามพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีหลวงพ่อธัมมชโย และ หมู่คณะวัดพระธรรมกาย เป็นผู้อบรมพร่ำสอนชี้ทางสว่าง  เป็นต้นบุญต้นแบบด้วยการทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง ทั้งส่งเสริมสนับสนุนอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติธรรมทุกช่องทาง ทุกกิจกรรม ทำให้เกิดแรงบรรดาลใจ ในการสร้างความดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และ ไม่มีวันหยุดกว่าจะถึงจุดหมาย คือที่สุดแห่งธรรม 

ขอกราบแทบเท้าบูชาคุณ หลวงพ่อธัมมชโย และ ขอกราบขอบพระคุณ หมู่คณะวัดพระธรรมกายมา ณ โอกาสนี้ครับ

     
แผ่นดิน

๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙







วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

บุญที่ฉันปลื้มที่สุด




บุญที่ปลื้มที่สุดในชีวิตของผม

บุญนั้นคือ บุญที่ผมได้มีโอกาสบรรพชา และ อุปสมบท ในโครงการบวชพระธรรมทายาท รุ่น๒๗ ที่วัดพระธรรมกาย เป็นโอกาสที่ดีที่ปลื้มที่สุดในชีวิต เพราะ การเข้ารับการอบรมธรรมทายาทที่วัดพระธรรมกายในครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของผม เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในทุกๆด้าน ทำให้ผมมีเป้าหมายชีวิตที่ดีงาม ว่าเราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี ได้ค้นพบว่าความสุขที่แท้จริงนั้นมีอยู่ภายในตัวของเอง ทำให้ผมสามารถหักดิบเลิกเกี่ยวข้องกับอบายมุขทั้งปวงได้ในที่สุด ได้มีโอกาสตอบแทนพระคุณพ่อแม่ และ ที่สำคัญทำให้ได้มีโอกาสศึกษาธรรมะ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเปรียบเสมือนแสงประทีปธรรมนำพาชีวิต ไปสู่จุดหมาย คือพระนิพพาน

 ชีวิตของผมในทุกวันนี้มีความสุขมาก และ ผมมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ ได้มาเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อธัมมชโย และได้มีโอกาสเข้าวัดพระธรรมกายบุญสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่หลวงพ่อธัมมชโย และ หมู่คณะได้ทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพันสร้างขึ้น

หลวงพ่อธัมมชโย นอกจากท่านสอนให้ผมได้รู้จักการสร้างบุญแล้ว ท่านยังทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างบุญอย่างสม่ำเสมอ ทุกโครงการ ทุกกิจกรรมของวัดพระธรรมกายซึ่งนำโดยหลวงพ่อธัมมชโยตลอดระยะเวลากว่าสี่สิบปีที่ผ่านมานั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อการสร้างบุญกุศลทั้งสิ้น และ แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายขนาดไหน จะมีใครไม่เข้าใจ แกล้งไม่เข้าใจ ต่อว่า ขัดขวาง รบกวน ทำร้ายหลวงพ่อด้วยประการใดๆก็ตาม หลวงพ่อธัมมชโยท่านก็ไม่เคยย่อท้อ หรือหมดกำลังใจ แต่ ท่านกลับยิ่งพากเพียรนำพาหมู่คณะสร้างบารมีกันต่อไป อย่างไม่มีหยุดหย่อน

ด้วยเพราะซาบซึ้ง ตื่นตันใจ ในพระคุณอันยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อธัมมชโย และ วัดพระธรรมกายในวันนี้ จากนี้ต่อไป ผมจะตั้งใจทำความดีให้ยิ่งๆขึ้นไป ดำเนินชีวิตต่อไปด้วยความไม่ประมาท หมั่นเพียรแก้ไขอบรมพัฒนาตนเองในทุกด้าน  และ อุทิศตนทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับครอบครัว สังคม และ ชาวโลก ตามรอยหลวงพ่อธัมมชโย และ หมู่คณะวัดพระธรรมกายตลอดไป


บุญที่ปลื้มที่สุดในชีวิตของผมในวันนั้นยังคงเป็นภาพประทับที่อยู่ในความทรงจำผมอย่างชัดเจนในวันนี้ และ เป็นบุญที่ต่อบุญ ที่ทำให้เกิดกำลังใจในการสร้างบุญครั้งใหม่ๆต่อไป และ ตลอดไป ตราบจนเข้าถึงพระนิพพาน

     
แผ่นดิน
๑๐ มีนาคม ๒๕๕๙