วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559


ก่อนที่ผมจะได้รู้จักกับวัดพระธรรมกาย และ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย

ผมเป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจจะแสวงหาคำตอบของชีวิต ว่าเราเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต และ ความสุขที่แท้จริงนั้น อยู่ที่ไหน แสวงหาได้อย่างไร

ผมได้ออกเดินทาง เรียนรู้ เข้าหาผู้คน ลองผิด ลองถูก ค้นหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และ แตกต่างมากมาย ซึ่งได้พบกับทั้งความผิดหวัง สุขสมหวัง หัวเราะ ร้องไห้ ดีใจ เสียใจ คละเคล้ากันไป แต่ก็ได้พบว่าไม่ว่าประสบการณ์ด้านใด ทั้งดี และ ไม่ดี ล้วนแต่มีคุณประโยชน์กับชีวิตของเราทั้งสิ้น

เมื่อได้มาวัดพระธรรมกายครั้งแรก ท่ามกลางกระแสข่าวโจมตีวัดพระธรรมกายอย่างรุนแรงและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ผมเลือกที่จะเข้ามาด้วยความสงสัยใคร่รู้  กระหายจะพิสูจน์ความจริงจากวัดพระธรรมกาย และ หลวงพ่อธัมมชโย ว่าถูกหรือผิดตามที่ได้ยินจากสื่อต่างๆหรือไม่

และที่สำคัญ ผมอยากจะแสวงหาคำตอบของชีวิตที่ค้นหามาอย่างยาวนาน อยากจะพัฒนาตนเองให้เต็มศักยภาพ อีกทั้งอยากจะทดลองฝึกสมาธิ ในแนววิชชาธรรมกายดู จากที่เคยได้ทดลองปฏิบัติธรรมในแนวทางอื่นๆด้วยตนเองมาแล้วหลายปี

สำหรับผมมีความคิดว่า เราน่าจะเลือกค้นหาแต่สิ่งดีๆที่มีอยู่ในวัดพระธรรมกาย เพื่อเอามาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตของตนเองมากกว่าเข้ามาเพื่อจ้องจับผิด ซึ่งไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไร เพราะผมรู้ดีว่าในโลกนี้ ทุกอย่างมีดีมีเสียคละเคล้าปนๆกันไป ไม่มีอะไรดีแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่มีอะไรชั่วเพียงอย่างเดียว เช่นกัน และที่สำคัญ เวลาในชีวิตนี้มีอยู่จำกัด เราควรตั้งใจแสวงหาแต่ในจุดดีเป็นหลักจะดีกว่า เพราะเกิดเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงกับตนเองมากที่สุด

อีกประการหนึ่ง การที่จะรู้ และตัดสินใจว่าอะไร ดี หรือ ไม่ดี ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเข้าใจได้ง่ายๆ ควรต้องใช้เวลาในการไตร่ตรอง พิจารณา ด้วยสติ และ ผ่านประสบการณ์ที่มากพอ ฉะนั้นเราจึงไม่ควรตัดสินถูกผิดในเรื่องราว ของใคร หรือ องค์กรใดว่าดี หรือไม่ดี อย่างมักง่าย รีบด่วนจนเกินไป

  ยิ่งการได้รับข้อมูลมาไม่ครบถ้วน ได้รับข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือมีอคติส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะด้วย ความชอบ ความชัง หรือ มีผลประโยชน์แอบแฝงอื่นใด ล้วนส่งผลให้เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้ และยังส่งผลกระทบต่อไปให้ตนเองคิดผิด พูดผิด ทำผิด ซำ้ร้ายยังสามารถแพร่กระจาย ความเข้าใจผิดนี้ออกไป กลายเป็นวงจรด้านลบต่อไปไม่สิ้นสุด

     ดังนั้นเราจะต้องค้นคว้า ศึกษาหาความรู้ และ เปิดรับประสบการณ์อย่างเอาจริงเอาจัง ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ด้วยความมานะพากเพียร ใจจดใจจ่อกัดติดลงมือทำด้วยความหนักแน่นต่อเนื่อง และ หมั่นใช้สติปัญญาพิจารณาใตร่ตรองให้รอบคอบ ซึ่งต้องประกอบไปด้วยความพอดี

ฉะนั้นผมจึงไม่ด่วนสรุป วัดพระธรรมกาย และ หลวงพ่อธัมมชโยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอย่างรวดเร็วเกินไป แต่ในทางกลับกันผมจะมาพิสูจน์ความจริง ด้วยการตั้งใจศึกษา เรียนรู้คำสอน และ ทดลองนำเอาความรู้นั้นมาปรับใช้กับตนเองอย่างจริงจัง เพื่อพิสูจน์ให้รู้ชัดเจนไปเลยว่า วัดพระธรรมกาย และ สิ่งที่หลวงพ่อธัมมชโยสอนนั้น เป็นของจริง ดีจริงหรือไม่

และจากที่ได้พิสูจน์ด้วยตัวของผมเองมาแล้ว ผมก็รู้สึกโชคดีมากที่ในเวลานั้นไม่ได้ด่วนสรุป ด่วนตัดสินใจไปในทันทีโดยไม่ได้พิจารณา เพราะถ้าผมด่วนตัดสินใจแบบผิดๆไป ผมคงจะพลาดโอกาสอันยิ่งใหญ่ของชีวิต โอกาสในการได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเปรียบเหมือนแสงสว่างส่องทางในการดำเนินชีวิต ท่ามกลางความมืดมิดแห่งวัฏฏสงสาร เป็นทางรอดทางหลุดพ้นจากภัยในอบายภูมิ

สำหรับวัดพระธรรมกาย ตามความเข้าใจของผม วัดพระธรรมกายคือ โรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย ที่มีเป้าหมายในการให้การศึกษาในทางพระพุทธศาสนา มีการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ  สามารถนำธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาอรรถาอธิบาย ทำให้นักเรียนได้รับความรู้ และ ประสบการณ์อันทรงคุณค่า และ สามารถทดลองพิสูจน์ให้เห็นผลประจักษ์ด้วยตนเองโดยตรง

นอกจากนั้นวัดพระธรรมกายยังขยายโอกาสในการศึกษาธรรมะให้แก่ผู้คนทั้งหลายในสังคมอย่างเสมอภาคกัน ไม่ว่าในระดับไหน คนรวยหรือจน ไม่ว่าคนไทยหรือ คนต่างประเทศ  ไม่ว่าจะอยู่ในดินแดนไหนก็ล้วนมีโอกาสได้เข้ามาศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธจ้าด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งที่มาที่วัดพระธรรมกาย หรือ ศูนย์สาขาภายใน และ ต่างประเทศ รวมถึง การศึกษาผ่านทางดาวเทียม หรือ ทางอินเตอร์เนตที่ครอบคลุมทั่วทั้งโลก

วัดพระธรรมกายในทุกวันนี้ เปรียบเสมือนศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาของโลกในยุคปัจจุบัน และที่มีวัดพระธรรมกายในวันนี้ได้นั้น ล้วนเกิดขึ้นจากการเอาชีวิตเป็นเดิมพันของหลวงพ่อธัมมชโยทั้งสิ้น ซึ่งท่านได้เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรร  บุกเบิก ต่อสู้ ฝ่าฟันอุปสรรค์นานานับประการ ทั้งจากความหวาดระแวง และ ความไม่เข้าใจ หรือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในสังคม หลวงพ่อธัมมชโย ท่านมีแต่ให้อภัย ไม่เคยกล่าวร้าย กล่าวโทษใครทั้งสิ้น ท่านมีขันติธรรมที่ยิ่งใหญ่ และ ท่านยังคงยืนหยัด ที่จะสร้างบารมี สร้างความดี อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันอยู่ต่อไปอย่างไม่ลดละ

ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของผมอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสได้พบกับท่าน และ โชคดีเป็นยิ่งนักที่ไม่ได้ตัดสินท่านเร็วเกินไปจากการฟังข่าวแต่ในด้านลบ เพราะตระหนักดีว่าตัวเราเองก็ยังไม่รู้จริงในเรื่องธรรมะ และ ยังไม่ศึกษาให้รู้แจ้งแทงตลอดในธรรมะที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านได้สอน ก็อย่าเพิ่งรีบด่วนไปตัดสินท่านหรือใคร เดี๋ยวตัวเราจะกลายเป็นคนประเภท ที่รู้ไม่จริง จิตใจเต็มไปด้วยอวิชชา คือ ไม่รู้ว่าตัวเองยังไม่รู้ และ บังอาจไปตัดสิน  ด้วยความเข้าใจที่ผิด  เหมือนเอาเท้าเป็ดเท้าไก่ไปหยั่งหาความลึกในท้องพระมหาสมุทรอย่างนั้น แถมถ้าเผลอไปว่าร้าย ไปทำร้าย ผู้ทรงคุณธรรมเข้าอีก ก็จะยิ่งเกิดผลเสียหาย แก่ตัวเราเองมากที่สุด

ในช่วงแรกผมก็ยอมรับว่า มีทั้งความเข้าใจ และ ไม่เข้าใจในวัดพระธรรมกาย และ หลวงพ่อธัมมชโยอยู่เหมือนกัน แต่ในส่วนที่ไม่เข้าใจก็ เคยไม่ด่วนสรุปเอาเอง แต่จะต้องค้นคว้า หาที่มาที่ไป สอบถามถึงวัตถุประสงค์ เป้าหมายของวัด หรือ หลวงพ่อท่านก่อน เพื่อหาข้อมูลที่แท้จริงให้พบ เพื่อนำเอามาพิจารณาตรึกตรองว่า ถูกต้องดีงาม ควรนำไปปฏิบัติตามหรือไม่ แต่จากที่ได้พิสูจน์ด้วยตนเองก็พบว่าทุกคำถามล้วนมีคำตอบ และ คำตอบก็มีเหตุมีผลที่ชัดเจน ล้วนแต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการทำความดีทั้งสิ้น และ คำสอนของหลวงพ่อ และ พระภิกษุที่นี่ล้วนแต่ตรงตามพระไตรปิฏกทั้งสิ้น ยิ่งความประพฤติที่แสดงออกมาทั้งทางกาย และ ทางวาจา ก็ยิ่งก่อให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นในทุกๆครั้งที่ได้พบเห็นว่า พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นถูกต้อง ดีงาม และ มีอยู่จริง

ส่วนข้อกล่าวหา ข้ออ้าง ข้อเคลือบแคลงสงสัยต่างๆที่ปรากฏเกิดขึ้นมาในสังคมที่ในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ว่าจะเกิดจากสื่อหรือ จากบุคคลกลุ่มใด เมื่อผมได้ติดตาม ได้ฟังข้อความเหล่านั้นแล้ว ก็นำเอามาพิจารณา และ พบว่าส่วนใหญ่ล้วนแต่เกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปจากความจริง หรือ เข้าใจผิดเพราะได้รับข้อมูลมาผิดๆ ซึ่งคนเหล่านี้มี ทั้งพวกที่พยายามจะเข้าใจ และ พวกที่ไม่พยายามเข้าใจอะไรทั้งนั้น

แต่สำหรับผมเองเรื่องข้อครหา  ข้อกล่าวหา ทั้งหลายเหล่านี้ กลับกลายเป็นบทพิสูจน์ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ถูกต้องชอบธรรมของวัดพระธรรมกาย และ หลวงพ่อธัมมชโยทั้งสิ้น จึงไม่แปลกใจว่าทำไมวัดพระธรรมกาย ยิ่งถูกตี ก็ยิ่งโต ก็เพราะเป็นวัดที่มีความบริสุทธิ์ใจในการสร้างความดีจริงๆ ซึ่งเรื่องดีจริงหรือไม่จริงนี้ ถ้าไม่รู้จักไม่ได้ใกล้ชิดกันแล้วก็จะพิสูจน์ได้ยาก แต่สำหรับผม ได้เข้าไปใกล้ชิด เป็นเวลายาวนาน กลับพบว่า ยิ่งใกล้ชิดก็ยิ่งเห็นคุณความดี เห็นคุณธรรมในตัวของหลวงพ่อธัมมชโยมากยิ่งขึ้น เหมือนดังคำกล่าวที่ว่า ศีลนั้นเรียนรู้ด้วยการอยู่ร่วม

กว่า18 ปีที่ผ่านมา  ชีวิตของผมเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทุกวันนี้มีความสุข และ อุ่นใจที่ได้รู้ว่า เราเกิดมาทำไม เป้าหมายชีวิตคืออะไร และ ความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ไหน และ จะแสวงหาได้อย่างไร

และจากที่เคยคิดว่าจะเข้ามาวัดพระธรรมกายเพียงแค่หาที่นั่งสมาธิ และตั้งเป้าว่าคงจะได้ความรู้ธรรมะไปใช้ในชีวิตบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่กลับพบความจริงว่า ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นลุ่มลึกไปตามลำดับ มีความรู้มากมายที่เอามาใช้กับชีวิตได้ในทุกแง่ทุกมุม และ เอามาใช้ปรับปรุงแก้ไข พัฒนาตนเองได้ไม่รู้จบสิ้น เสมือนว่า เดินหลงทางในทะเลทราย ตั้งใจจะเข้ามาในสถานที่นี้เพื่อแสวงหานำ้ดื่มสักหนึ่งแก้วเพื่อดับกระหาย แต่กลับพบว่า ที่นี่คือท้องมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ มีนำ้ใสบริสุทธิ์ ที่เอาไว้ใช้ ดื่ม กิน และ มีคุณประโยชน์มากมายไม่มีทีสิ้นสุด

คำถามทุกคำถามที่เคยค้างคาใจ จากที่ได้รับข้อมูลทางลบต่างๆเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย และ หลวงพ่อจากข่าว หรือ คำบอกเล่าต่างๆผ่านสื่อสารมวลชน ก็ล้วนแต่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนกระจ่างแจ้งจากทางวัดทั้งสิ้น ทั้งจากคำพูด คำสอน การแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ด้วยการกระทำซึ่ง เป็นผลงานที่ชัดผ่านระยะเวลาทนทานในการพิสูจน์มาอย่างยาวนานแล้วทั้งสิ้น สรุปได้ว่าหลวงพ่อ และ ทางวัดพระธรรมกาย คือของจริง ดีจริง  ที่ผู้มีปัญญาทุกคน ไม่ควรมองข้าม แต่กลับควรจะต้องเข้ามาพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง


ตัวผมเองนี้ เคยจมอยู่ในอบายมุข ดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืน เป็นนักเล่นการพนัน ก็สามารถหักดิบ เลิกสิ่งเหล่านี้ได้ในที่สุดอย่างเด็ดขาด เหมือนได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง ที่มีความสุข  สบายใจ และ เป็นที่ยอมรับ รวมทั้งเป็นที่รักเคารพของตนเอง และ คนรอบข้างมากขึ้น เงินทองก็เหลือเก็บเหลือใช้มากขึ้น เพราะไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุขทั้งปวง สุขภาพก็ดีขึ้น จิตใจผ่องใส และ ภูมิใจท่ีสามารถเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกๆได้ ผมเลิกผิดศีล เลิกอบายมุขทั้งปวง หันมารักษาศีลอย่างจริงจัง เว้นการข้องเกี่ยวกับอบายมุขอย่างเข้มแข็งได้ในวันนี้ ก็เพราะวัดพระธรรมกาย และ หลวงพ่อธัมมชโยจริงๆ

ทุกวันนี้รักพ่อรักแม่มากขึ้น เพราะทางวัด และ หลวงพ่อพร่ำสอนให้ตระหนัก และ ซาบซึ้งในพระคุณของพ่อแม่อย่างชัดเจน สอนให้แสดงความกตัญญู สอนให้ตอบแทนพระคุณของท่าน ทำให้ผมซึ่งเป็นลูกคนหนึ่งของพ่อแม่ ที่เคยเกเร แข็งกระด้าง ก้าวร้าว มีปัญหาเรื่องความประพฤติ และ การเรียน เปลี่ยนเป็นคนใหม่อย่างสิ้นเชิง ทุกวันนี้รู้สึกโชคดีมากที่ได้เข้าวัดพระธรรมกาย ทำให้มองเห็นพระคุณของบิดามารดา ว่าท่านเป็นพระอรหันต์เป็นเนื้อนาบุญของลูก ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสามารถทำหน้าที่ลูกที่ดี และ สมบูลย์ได้ยิ่งขึ้น

ในฐานะที่เป็นคุณพ่อของลูกน้อยๆสองคนในวันนี้ ผมได้ตระหนักดีถึงความเปลี่ยนแปลงของโลก โลกทุกวันนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน มีการแก่งแย่งแข่งขัน มีความขัดแย้ง มีการทำร้าย ทำลาย เอาเปรียบกันทุกหย่อมหญ้า มีความเจริญทางวัตถุ แต่จิตใจกลับตกตำ่ลง ศีลธรรมห่างหายไปจากใจของมนุษย์ เกิดอาชญากรรมมากมายซึ่งนับวันจะรุนแรง เหี้ยมโหดมากยิ่งขึ้นไปทุกที ก็ได้แต่เป็นห่วงอนาคตของลูกทั้งสองคนที่จะต้องเผชิญกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เขาจะต้องเผชิญโลกในอนาคตได้อย่างไร ในวันที่ไม่มีเราอยู่แล้ว เป็นความกังวล อันเกิดจากความรักและห่วงใยในตัวลูกที่มีอยู่มากมาย ก็เหมือนกับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่หลายๆคน แต่ความห่วงความกังวลเหล่านี้ได้ถูกทำให้บรรเทาเบาบางไปได้ ด้วยธรรมะ ที่ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อ ทำให้รู้วิธีการฝึกฝนอบรมตนเองและลูกๆ ให้มีวิธีการทำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ดีงาม เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข และ ความก้าวหน้าของชีวิต ด้วยการสร้างบุญ และ การสร้างนิสัยที่ดีในชีวิตประจำวัน ผ่านห้าห้องของชีวิต และทุกๆคนก็สามารถลงมือทำได้ อย่างง่ายๆ แต่จะส่งผลอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้ในวันนี้ผมมีความมั่นใจแล้วว่า เราสามารถเป็นพ่อที่ดีของลูกได้ และ มีวิธีในการฝึกลูกให้สามารถเผชิญอุปสรรค์ขวากหนามทั้งหลายในอนาคต สามารถอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข  และ ก้าวหน้าต่อ ก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จ แม้ในวันที่ไม่มีพ่อแม่แล้วก็ตาม

เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก ที่คนข้างนอกไม่รู้ว่า ที่วัดพระธรรมกาย โดยการนำของหลวงพ่อธัมมชโย มุ่งเน้นการฝึกสมาธิมากๆ ท่านทำให้ดูเป็นแบบอย่างที่ดียิ่ง และ เคี่ยวเข็ญให้ทุกๆคนนั่งสมาธิกันอย่างจริงจังมากๆ แล้วท่านยังจัดการ อำนวยความสะดวกทุกอย่าง ทั้งหาสถานที่ หาทุนทรัพย์ หาทีมงาน และจัดหลักสูตรการนั่งสมาธิที่มีคุณภาพ กระจายไปทั่วทุกมุมโลก สิ่งที่ท่านทำเป็นเรื่องที่ดีงาม และ เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากๆ เป็นสิ่งที่อยู่เหนือและเกินกว่าจินตนาการ ซึ่งหลวงพ่อธัมมชโยท่านทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ สูงส่ง มากเกินกว่าที่คนที่มีสติปัญญาจำกัดแบบผมจะเข้าใจ ได้ทั้งหมด

และจากการที่ผมได้ฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอ อย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ ผมมีสติมากขึ้น ใจเย็นขึ้น สุภาพขึ้น สุขภาพจิตใจดีขึ้นในทุกๆด้าน รักการจับถูก มีความอดทนอดกลั้นที่เพิ่มพูนขึ้น ซึ่งประเมินเป็นมูลค่ายากมาก ถ้าไม่มีวัดพระธรรมกาย ไม่มีหลวงพ่อธัมมชโย ผมคงไม่ได้มีโอกาสมานั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมอย่างมีความสุขอย่างนี้

มันเป็นเรื่องยากมากที่จะพรรณาอธิบายขยายความให้กระจ่างแจ้ง ในเรื่องพระคุณ คุณธรรมความดี ของวัดพระธรรมกาย และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระคุณคุณความดีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ที่มีต่อชีวิตของผม และ ครอบครัว ด้วยเพราะสติปัญญา และ คุณธรรมที่มีอยู่อย่างจำกัดของตัวผม  และประกอบกับผมเองก็ยังอยู่ในภาวะเริ่มต้นในการศึกษา และ ฝึกตัวเท่านั้น จึงไม่อาจกล่าวอธิบายขยายความโดยพิศดารได้มากไปกว่านี้

กล่าวโดยสรุป 18 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็น18 ปีที่มีความหมายอย่างยิ่งกับชีวิตของผม เป็น18 ปีแห่งความมีโชควาสนา ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีร่างกายที่แข็งแรงไม่พิกลพิการ ในกาลที่ยังมีพระพุทธศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดำรงอยู่ ได้อาศัยอยู่ในดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง อยู่ในยุคของพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยทศพิศราชธรรม อยู่ในครอบครัวชาวพุทธที่อบอุ่น ที่เปิดโอกาสให้ได้ศึกษาหาความรู้ทางโลกทางธรรมอย่างเต็มที่

แต่โชควาสนาดีๆทั้งหลายเหล่านี้ไม่อาจจะผลิดอกออกผล งอกเงยขึ้นมาได้ หากปราศจากสุดยอดกัลยาณมิตร คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย และ หมู่คณะวัดพระธรรมกาย ที่ได้ทุ่มเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เปิดโอกาสให้ผมและครอบครัวได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ผมได้พบหนทางรอดจากวิกฤติชีวิตของของมนุษย์ ด้วยมรรคมีองค์แปดที่ถูกอธิบายให้เข้าใจได้ สามารถลงมือปฏิบัติให้เห็นผลดีอย่างชัดเจนจากการใช้ชีวิตประจำวัน และยังทำให้สามารถอยู่อาศัยในโลกใบนี้ซึ่งเป็นคุกที่กว้างใหญ่ อันเต็มไปด้วยความทุกข์ อย่างมีความรู้ ที่สำคัญ และ จำเป็น เพื่อความอยู่รอด ความปลอดภัยในวัฏสงสาร และ สามารถก้าวผ่าน นำพาชีวิตสู่พระนิพพานได้ในที่สุด

ในวันนี้เป็นวันที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ วัดพระธรรมกาย และ หลวงพ่อธัมมชโยอย่างมากมาย ด้วยความเข้าใจผิด ผมขอถือโอกาสนี้ แสดงความกตัญญู  และ กตเวที ต่อวัดพระธรรมกาย และ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยด้วยการ ตระหนักสำนึกรู้พระคุณ และ ประกาศคุณของท่านเพื่อให้ชาวโลกได้รับทราบ เพื่อให้ผู้ที่มีสติปัญญา ได้มองเห็น ให้ได้รู้เท่าทันตามความเป็นจริง ไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้สร้างสถานะการณ์ทางลบ ใส่ร้ายป้ายสีผู้มีคุณธรรมอันแท้จริง และ ที่สำคัญอย่าพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต ที่ได้เกิดมาร่วม และ อยู่ในกาลสมัยที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย และหมู่คณะวัดพระธรรมกายยังดำรงคงอยู่


ขอให้โชคดีครับ


แผ่นดิน
๕ มีนาคม พศ.๒๕๕๙

18 ความคิดเห็น:

  1. อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

    ตอบลบ
  2. สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

    ตอบลบ
  3. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณเป็นบุคคลที่น่ายกย่องมากเลยค่ะ มีเหตุผลไม่เชื่อเพียงข่าวลือแต่เข้ามาพิสูจน์ด้วยตัวเองจนได้คำตอบที่แท้จริงเกี่ยวกับหลวงพ่อธัมมชโย ดิฉันอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  4. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณเป็นบุคคลที่น่ายกย่องมากเลยค่ะ มีเหตุผลไม่เชื่อเพียงข่าวลือแต่เข้ามาพิสูจน์ด้วยตัวเองจนได้คำตอบที่แท้จริงเกี่ยวกับหลวงพ่อธัมมชโย ดิฉันอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  5. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณเป็นบุคคลที่น่ายกย่องมากเลยค่ะ มีเหตุผลไม่เชื่อเพียงข่าวลือแต่เข้ามาพิสูจน์ด้วยตัวเองจนได้คำตอบที่แท้จริงเกี่ยวกับหลวงพ่อธัมมชโย ดิฉันอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  6. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณเป็นบุคคลที่น่ายกย่องมากเลยค่ะ มีเหตุผลไม่เชื่อเพียงข่าวลือแต่เข้ามาพิสูจน์ด้วยตัวเองจนได้คำตอบที่แท้จริงเกี่ยวกับหลวงพ่อธัมมชโย ดิฉันอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  7. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณเป็นบุคคลที่น่ายกย่องมากเลยค่ะ มีเหตุผลไม่เชื่อเพียงข่าวลือแต่เข้ามาพิสูจน์ด้วยตัวเองจนได้คำตอบที่แท้จริงเกี่ยวกับหลวงพ่อธัมมชโย ดิฉันอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  8. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณคือคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ อยากให้คนที่ได้อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นอย่างไร ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระศาสนาและสังคมอย่างไรบ้าง เขาจะได้เข้าใจอย่างคุณค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ตอบลบ
  9. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณคือคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ อยากให้คนที่ได้อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นอย่างไร ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระศาสนาและสังคมอย่างไรบ้าง เขาจะได้เข้าใจอย่างคุณค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ตอบลบ
  10. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณคือคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ อยากให้คนที่ได้อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นอย่างไร ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระศาสนาและสังคมอย่างไรบ้าง เขาจะได้เข้าใจอย่างคุณค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ตอบลบ
  11. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณคือคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ อยากให้คนที่ได้อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นอย่างไร ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระศาสนาและสังคมอย่างไรบ้าง เขาจะได้เข้าใจอย่างคุณค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ตอบลบ
  12. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณคือคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ อยากให้คนที่ได้อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นอย่างไร ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระศาสนาและสังคมอย่างไรบ้าง เขาจะได้เข้าใจอย่างคุณค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ตอบลบ
  13. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณคือคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ อยากให้คนที่ได้อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นอย่างไร ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระศาสนาและสังคมอย่างไรบ้าง เขาจะได้เข้าใจอย่างคุณค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ตอบลบ
  14. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณคือคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ อยากให้คนที่ได้อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นอย่างไร ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระศาสนาและสังคมอย่างไรบ้าง เขาจะได้เข้าใจอย่างคุณค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ตอบลบ
  15. กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณคือคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรง่ายต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะเชื่อ อยากให้คนที่ได้อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านเป็นอย่างไร ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระศาสนาและสังคมอย่างไรบ้าง เขาจะได้เข้าใจอย่างคุณค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

    ตอบลบ